13 มิ.ย. 2560

วิธีขับรถกระบะให้ปลอดภัยลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ


การขับรถกระบะให้ปลอดภัยโดยเฉพาะกรณีที่มีคนนั่งกระบะหลัง ซึ่งสามารถเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายมาก โดยเฉพาะหากบรรทุกคนจำนวนมาก จะมีโอกาสพลิกคว่ำและเทกระจาดสูงมาก ซึ่งนี่ก็คืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ในเมืองไทยของเรา จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรจะมีความรู้ในการขับหรือวิธีป้องกันอันตราย


รถกระบะโตโยต้า ขึ้นชื่อที่สุดในเรื่องการพลิกคว่ำ ช่วงล่างที่สุด มีโอกาสพลิกคว่ำได้ง่ายกว่าคันอื่น ลองค้นหาบททดสอบใน Youtube ชื่อ The new Toyota Hilux 2016 fails moose test หรือวิดีโอนี้ ขับซ่า 34 : Group Test Pick-UP EP.3 :




 ผู้โดยสารเต็มคันทำให้เกิดแรงเฉื่อยฉุดให้รถพลิกคว่ำ 

เมื่อมีผู้โดยสารเต็มคัน ในจังหวะที่รถแถออกแล้วล้อลอยจากพื้น จะเกิดแรงเฉื่อยจากน้ำหนักตัวของผู้ที่นั่งกระบะหลัง ทำให้รถพลิกคว่ำได้ทันที ดังภาพในวิดีโอนี้ แต่หากไม่มีคนนั่งกระบะหลังหรือบรรทุกกระบะท้าย ก็จะไม่มีแรงเฉื่อยฉุดรถให้พลิกคว่ำ อาจจะแค่หมุน แต่หากหักหลบกระทันหัน ก็มีโอกาสเสียการทรงตัวได้เช่นกัน
1. ในจังหวะที่หักหลบกระทันหัน หรือเกิดการบิดพวงมาลัย อาจจะเผลอหลับใน หรืออะไรก็ตาม ภาพบนสุด รถเริ่มเสียการทรงตัว เมื่อรถส่าย น้ำหนักของคนที่นั่งกระบะท้ายจะทำให้เกิดแรงเหวี่ยง หรือแรงเฉือยนั่นเอง
2. เมื่อเสียการทรงตัว จะต้องประคองพวงมาลัยให้รถไปตรงๆ ก่อน แต่หากหักพวงมาลัยกลับทิศทางตรงกันข้าม เพื่อกลัวรถจะคว่ำ น้ำหนักท้ายกระบะจะยิ่งฉุดให้รถเสียการควบคุมมากขึ้น
3. นำหนักกระบะหลังที่ค่อนข้างมาก จะฉุดหรือเป็นแรงเฉือยทำให้พลิกคว่ำได้ง่ายๆ


pickup-roll-over018.jpg

4. สำหรับรถกระบะนั้น แม้จะไม่มีคนนั่งท้าย แต่นั่งในแคบ ก็มีโอกาสพลิกคว่ำสูงเช่นกัน เพราะน้ำหนักไปรวมกันอยู่หน้ารถมากกว่า เมื่อหักหลบกระทันหัน ก็ทำให้เกิดแรงเฉือยเช่นกัน ซึ่งต่างจากรถเก๋งจะกระจายน้ำหนักไปทั่วคัน โอกาสพลิกคว่ำน้อยกว่า

ดูเพิ่มเติมได้จากวิดีโอใน Youtube
https://www.youtube.com/watch?v=VWUAEIllZtE

รถแต่ละยี่ห้อโอกาสพลิกคว่ำต่างกัน

รถประบะแต่ละยี่ห้อคุณภาพช่วงล่างต่างกัน หากต้องหักหลบกระทันหัน ยี่ห้อยอดนิยมอย่าง Totyt จะมีโอกาสพลิกคว่ำมากกว่ายี่ห้ออื่น ซึ่งใน Youtube จะมีวิดีโอทำสอบสมรรถนะรถไว้หลายคลิป
1. ตัวอย่างวิดีโอจำลองสถานการณ์การหักหลบสิ่งกีดขวางกะทันหัน ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้ทุกเมื่อ เพราะบนถนนอะไรก็เกิดขึ้นได้ เช่น สัตว์เลี้ยง รถมอเตอร์ไซค์ จักรยาน รถยนต์ด้วยกันเอง ฯลฯ
2. รถโตโยต้า มีปัญหาอย่างน่ากลัวทีเดียวกับการทรงตัวเมื่อหักหลบกระทันหัน จากภาพนี่คือรถเปล่า แต่หากมีน้ำหนักบรรทุกเต็มท้ายกระบะ ก็จะเกิดแรงเฉื่อย และฉุดให้รถพลิกคว่ำได้ทันที


pickup-roll-over094.jpg

3. รถที่ทดสอบไม่มีการบรรทุกกระบะท้าย แต่หากมีคนนั่งจำนวนมาก ก็มีโอกาสพลิกคว้ำได้ทันที หรือจะนั่งในแค็ปก็ตาม เพราะรถกระบะน้ำหนักจะไปรวมกันอยู่ตอนหน้า ทำให้เกิดแรงเฉือย ฉุดให้พลิกคว่ำได้ง่ายกว่ารถเก๋ง


pickup-roll-over097.jpg

ดูเพิ่มเติมได้จากวิดีโอใน Youtube
https://www.youtube.com/watch?v=xoHbn8-ROiQ

การพลิกคว่ำขณะเข้าโค้ง

โอกาสที่จะพลิกคว่ำ อาจจะเกิดจากการเข้าโค้ง แล้วนำหนักคนที่นั่งข้างหลัก โยกเข้าหน้าโค้ง ดึงรถออกจากถนน หรือการหักหลบกระทันหันทำให้รถเหวี่ยงไปมาและพลิกคว่ำในที่สุดนั่นเอง


ขับผ่านแอ่งน้ำ น้ำขัง มีโอกาสหมุนและพลิกคว่ำสูง

จากประสบการณ์ส่วนตัวกับการใช้งานรถกระบะ อย่าง Toyota และเคยหมุนมาก่อน จึงพอจะจับอาการได้ อย่างเวลาเบรค หากขับรถมาที่ความเร็ว การเบรคแล้วล้อจับไม่เท่ากัน ก็เตรียมหมุนและพลิกคว่ำได้เลย หากมีคนนั่งอยู่ข้างหลัง
พอได้ศึกษาอย่างจริงจังและเห็นอุบัติเหตุในวิดีโอแล้ว รู้กลัวขึ้นมาทันที เพราะคนต่างจังหวัด มักจะนั่งกระบะหลัง ซึ่งหลายคนก็ขับด้วยความเร็วสูงมาก หากเกิดการหักหลบในทันทีทันใด ก็มีโอกาสเทกระจาด บาดเจ็บหรืออาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้ทันที

การขับผ่านน้ำ แอ่งน้ำ น้ำขังบนถนน จะมีโอกาสหมุนได้เช่นกัน สิ่งสำคัญก็คือต้องทดสอบการขับผ่านแอ่งน้ำหลายๆ แบบเพื่อให้รู้ว่า รถของเราจะมีอาการอย่างไรบ้าง สิ่งสำคัญก็คือ ห้ามเบรคเมื่อล้ออยู่ในแอ่งน้ำ เพราะล้อรถจะจับพื้นถนนได้ไม่เท่ากัน และทำให้รถหมุนได้ง่ายๆ ให้ประคองพวงมาลัยให้รถผ่านไปให้ได้ จะมีโอกาสรอดมากกว่าการเบรค

การป้องกันรถพลิกคว่ำ กรณีมีคนนั่งกระบะท้าย

การที่มีคนนั่งกระบะท้าย โดยเฉพาะนั่งกันเต็มกระบะ จะมีโอกาสพลิกคว่ำสูงมาก และยากจะป้องกัน แต่เมื่อยากจะหลีกเลี่ยงจำเป็นต้องนั่งกระแค็ปหรือกระบะท้าย การขับโดยบรรทุกคน ก็จำเป็นจะต้องใช้ความระมัดระวัง ให้มากๆ เช่น

1. การเลือกรถที่มีระบบการทรงตัว ในกรณีเข้าโค้ง หักหลบกะทันหัน และหลีกเลี่ยงรถที่ช่วงล่างแย่ๆ คว่ำบ่อยๆ ศึกษารถที่ใช้ จุดเด่น จุดด้วย เพื่อจะได้ระวังเวลาขับ ผู้เขียนเคยใช้ Toyota Mighty X เวลาเบรค หากพวงมาลัยไม่ตรง ขับประมาณ 70-80 ก็ทำท่าจะหมุนอยู่เรื่อย เวลาจะเบรคต้องแน่ใจว่าพวงมาลัยตรง ล้อตรง ไม่เช่นนั้นมีสิทธิ์หมุนแน่นอน

2. หาโอกาสทดสอบการขับในสถานการณ์ต่างๆ เช่น ขับผ่านน้ำขัง ขับแบบหักหลบกะทันหัน อาจจะหาสิ่งของมาตั้ง หรือขับเข้าโค้ง เพื่อให้รู้สมรรถนะของรถที่เราใช้ เพื่อให้รู้สภาพรถว่าเป็นอย่างไร จะได้เตรียมรับมือได้ทีน

3. หากเกิดฝนตก มีน้ำขัง ต้องลดความเร็ว ห้ามเบรคในโค้ง หรือขณะอยู่ในน้ำขังบนพื้น เพราะแม้จะไม่ใช้ความเร็วสูงมาก ก็มีโอกาสพลิกคว่ำได้เช่นกัน

4. หากต้องบรรทุกคนบ่อยๆ การติดตั้งแครี่บอยจะช่วยป้องกันไม่ให้คนนั่งกระบะท้าย หลุดออกจากรถได้บางส่วน ซึ่งจะมีโอกาสถูกรถที่ขับตามมา ชนหรือเหยียบทับ ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ หรือห้ามใช้ความเร็วสูงเกิน 60 กิโลเมตร ต่อชั่วโมงก็อันตรายแล้ว

5. ศึกษาวิดีโออุบัติเหตุเกี่ยวกับรถกระบะที่บรรทุกคนในกระบะท้าย แล้วเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ ดูเป็นกรณีศึกษา

เมืองไทยเรานิยมใช้รถกระบะกันมาก เพราะสามารถบรรทุกคนได้มาก โดยเฉพาะการนั่งกระบะท้าย ของคนต่างจังหวัด บางครอบครัวมีรถคันเดียว หรือกิจกรรมต่างๆ งานบวช งานแต่ง ฯลฯ ก็นิยมนั่งกระบะท้ายกันมาก

การขับรถโดยมีคนนั่งกระบะท้ายจึงต้องศึกษาเรื่องความปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถกระบะไม่เหมือนรถเก๋ง ความปลอดภัยสูงกว่า ผู้เขียนเคยขับ BMW ไปชนเละขนาดนี้ แต่คนข้บไม่ป็นอะไรเลย หัวแตกนิดหน่อย ไม่ได้รัดเข็มขัด โดนตีหัวแตก แค่นั้นเอง ความปลอดภัยรถเก๋งกับกระบะต่างกัน แม้แต่รถกระบะด้วยกันเองก็ตาม


pickup-roll-over103.jpg

pickup-roll-over104.jpg

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น